ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น (3) : สโนวอลล์
นาโงย่า — คานาซาว่า — โทยามะ — ทาเทยามะ — ทาคายาม่า — เคโระ
คณะขับรถเที่ยวญี่ปุ่น กลับมาแล้วครับ หลังจากหยุดพักไปกว่าครึ่งปี เพราะสถานการณ์โควิค-19 ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทย (กรกฎาคม 2563) สถานการณ์ดังกล่าวได้ผ่อนคลายลงไปบ้างแล้ว โดยประเทศไทยได้รับการชื่นชมจากทั่วโลกว่าเป็นประเทศที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิค-19 ได้ดีเป็นอันดับที่ 1 น่าภาคภูมิใจนะครับ
ด้านท่องเที่ยวนั้น คนไทยเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศกันแล้ว โดยภาครัฐช่วยจัดโปรโมชั่นสนับสนุน ส่วนการท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น เริ่มมีแนวคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble รวมทั้งมีข่าวดีเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิค-19 ที่ใกล้จะประสบความสำเร็จ ประชาชนทั่วโลกได้ใช้ในอนาคตอันใกล้นี้ การท่องเที่ยวต่างประเทศคงกลับมาได้รับความนิยมอีก
JAL จัดโปรตั๋วบินแถมห้องพัก หลังจากฟื้นฟูกิจการแล้ว เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ. 2559 สายการบินแจแปนแอร์ไลน์หรือ JAL ใหม่ ได้จัดโปรโมชั่นตั๋วบินกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) – นาโงย่า (ซุบุเซนแทร์) โดยตั๋ว 1 คู่ (2 ใบ) แถมห้องพักโรงแรม (พักคู่) ให้ 2 คืน โดยสามารถเลือกได้ว่าเป็นห้องพักโรงแรมในเมืองนาโงย่าหรือโรงแรมที่ สนามบิน ชูบุเซนแทร์ ทั้งนี้ ราคาโปรโมชั่นตั๋วบิน 1 คู่ และห้องพัก (คู่) 2 คืน คิดเป็นเงินไทยไม่ถึง 30,000 บาท คณะเรา 5 คน จึงรีบจองซื้อไว้เพื่อเดินทางในเดือนมิถุนายน 2559 อันเป็นช่วงปิดเทอมของหลานน้อย
นิสสันเซเรน่ามินิแวน ถึงวันเดินทางด้วยเที่ยวบินดึกจากสุวรรณภูมิ คณะเรามาถึงสนามบินชูบุเซนแทร์ในตอนเช้า เมื่อผ่านพิธีการเข้าเมืองและรับสัมภาระแล้ว คณะเราลงมาที่ชั้นล่างของสนามบินเดินไปไม่ถึง 100 เมตร ก็ถึงบริษัทให้เช่ารถ สะดวกมากครับ ต่างจากที่สนามบินชิโตเสะของซัปโปโรและสนามบินนาริตะที่โตเกียว ที่ต้องนั่งรถออกไปนอกสนามบินเพื่อรับรถเช่า ทริปนี้เราจองรถนิสสันเซเรน่าซึ่งเป็นมินิแวนขนาดกำลังดีสำหรับคณะเรา 5 คน ที่ประกอบด้วยคุณพ่อผู้จัดทริป คุณแม่และลูกสาวน้อย และคุณปู่กับคุณย่า
วางแผนเดินทาง : พักโรงแรม 7 คืน ทริปนี้เราวางแผนที่จะพักในญี่ปุ่น 7 คืน โดยได้จองออนไลน์เพื่อเข้าพักในเมืองต่าง ๆ คือ คานาซาว่า ทาเทยามะ อูนาซุกิ ทาคายาม่า เคโระ นาโงย่า และที่สนามบินชูบุเซนแทร์โดย 2 คืนสุดท้ายที่นาโงย่าและที่สนามบินชูบุเซนแทร์ เราได้พักฟรีไม่ต้องจ่ายค่าห้องพักโรงแรม โดยการใช้สิทธิจากโปรโมชั่นที่มาพร้อมกับตั๋วเครื่องบิน
แวะเมืองกุโจและชิราคาวาโกะ วันแรกเรามุ่งหน้าไปยังเมืองคานาซาว่าที่จองห้องพักโรงแรมออนเซนเอาไว้ โดยระหว่างเดินทางจะแวะที่เมืองกุโจ และชมวิวที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
กุโจ ขับรถมา 2 ชั่วโมง เราก็ถึงเมืองกุโจ เป็นเมืองเล็กที่น่ารักตั้งอยู่ริมลำธาร บรรยากาศค่อนข้างสงบ มีระบบการระบายน้ำที่ดีมาก รางน้ำในเมืองมีน้ำใสไหลเย็น เห็นปลามากมายแหวกว่ายอยู่ ปลาคาร์ปตัวใหญ่สีสันสวยงามและปลาอื่น ๆ
คณะเราทานอาหารกลางวันในร้านราเมงท้องถิ่นที่ตั้งอยู่ริมน้ำ เราสั่งราเมงมาทั้งเย็นและร้อน ทั้งแห้งและน้ำ มาทานกับปลานึ่งขิง ปลาทอด และข้าวห่อใบไม้ อิ่มอร่อยกันทุกคนครับ
ชิราคาวาโกะ จากกุโจมาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณที่ยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม จอดรถที่ลานจอดหน้าศูนย์ท่องเที่ยว เราเดินบนสะพานแขวนที่ข้ามแม่น้ำโซกาวะเข้าไปเดินชมหมู่บ้าน ที่อนุรักษ์บ้านโบราณ หลังคาสูงมุงด้วยฟางหนาแน่นมาก นักท่องเที่ยวจำนวนมาก คณะเรายังขึ้นไปชมวิวมุมสูงที่จุดชมวิวชิโรยามาบนเนินสูงข้างหมู่บ้านด้วย
คืนแรกพักคานาซาว่า ขับรถจากชิราคาวาโกะประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที เราก็ถึงเมืองคานาซาว่า เข้าที่พักโรงแรม KANAZAWA HAKUCHORO HOTEL SANRAKU ตั้งอยู่กลางเมืองไม่ไกลจากปราสาทคานาซาว่าและสวนเคนโระคุเอ็น เป็นโรงแรมออนเซนที่มีบ่อน้ำร้อนของตนเองลึกถึง 800 เมตร หน้าห้องอาบน้ำมีตู้แช่ไอศครีมไว้ให้ทานหลังแช่น้ำแร่ด้วย
มื้อค่ำเราเดินจากโรงแรมไปตลาดปลาโอมิโจะแล้วขึ้นไปทางอาหารญี่ปุ่นบนชั้นสองของตลาด ด้วยความที่เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดี ชาวเมืองคานาซาว่าจึงนิยมนำทองคำมาประดับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่อาหาร เราจึงลองสั่งข้าวปั้นซูซิและปลาดิบซาซิมิที่เปิดทองคำเปลวบาง ๆ ระยิบระยับมาชิมกัน อร่อยดีครับ
คานาซาว่าเป็นเมืองหลวงของแคว้นอิซิกาว่าที่อยู่ด้านทิศตะวันตกของเกาะฮอนซู ติดกับทะเลญี่ปุ่น มีเทือกเขาเจแปนแอลป์ขวางกั้นเป็นเขตแดน จึงทำให้ค่อนข้างจะปลอดจากสงครามระหว่างแคว้น ไดเมียวตระกูลมาเอดะที่ปกครองแคว้นต่อเนื่องกันมากว่า 400 ปี จึงสามารถสร้างสรรค์งานด้านศิลปวัฒนธรรมได้อย่างเต็มที่ ทำให้แคว้นมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี
ปราสาทคานาซาว่าสวยงามกว้างขวางสร้างขยายในแนวราบ แตกต่างจากปราสาทของไดเมียวแคว้นอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่สร้างเป็นแนวสูงมีหลายชั้น สวนเคนโระคุเอ็นได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสามของสวนญี่ปุ่นที่สวยที่สุดของประเทศ ร่วมกับสวนไดระคุเอ็นแห่งเมืองมิโตะ และสวนโคระคุเอ็นของเมืองโอคายาม่า
แวะเมืองโทยามะ รุ่งเช้าเราเดินเที่ยวชมปราสาทคานาซาว่า และสวนเคนโระคุเอ็น แล้วก็ออกมาทานไอศครีม (ปิดทองคำเปลวด้วย) ที่ร้านขายของที่ระลึกด้านหน้าสวน แล้วออกเดินทางมาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงเมืองโทยามะ เราจอดรถที่ Toll Park ใต้ปราสาทโทยามะ ชมปราสาทแล้วออกไปเดินช้อปปิ้งสตรีทที่ด้านหน้า
มื้อกลางวันเราพบร้านซูซิที่ขึ้นชื่อของเมืองตามที่เซิร์ชมาก่อน เป็นร้านเล็กๆที่ข้าวปั้นหน้าอาหารทะเลจากทะเลญี่ปุ่นจะสดอร่อยมาก คุณปู่และคุณย่ายังติดใจโทฟุหรือเต้าหู้ทรงเครื่องของร้านนี้ด้วย
ก่อนออกจากเมืองโทยามะ เราไปที่สวนสาธารณะประจำเมือง FUGAN UNGA KANSUI ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านสตาร์บักส์ โดยสาขานี้ได้รับรางวัลการออกแบบสาขาที่ดีที่สุดในโลก (ของสตาร์บักส์) มาแล้ว เรานั่งจิบเครื่องดื่มชมวิวสวยงามของสวนไปพลาง
คืนที่สองพักเมืองทาเทยามะ จากโทยามะมาประมาณ 1 ชั่วโมง เรามาถึงโรงแรม MORI NO KAZE TATEYAMA ที่จองไว้ โรงแรมนี้อยู่ในเขตเมืองทาเทยามะ ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นไปเจแปนแอลป์เพื่อคณะเราจะขึ้นไปเที่ยวชมสโนว์วอลล์บนเจแปนแอลป์ในเช้าวันรุ่งขึ้นได้โดยสะดวก
โรงแรมนี้เป็นโรงแรมออนเซนที่มีบ่อน้ำแร่ถึง 5 ชนิด โดยแยกบ่อแช่แต่ละชนิดออกจากกัน รวมทั้งยังมีบ่อแช่นอกอาคารด้วย อาหารค่ำเป็นบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น สะดวกสบายครับ
สโนวอลล์ หรือกำแพงหิมะ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในฤดูหนาวที่หิมะตกลงมาท่วมถนนบนยอดเขาเจแปนแอลป์บริเวณลานหิมะมูโรโด เพื่อให้รถยนต์สัญจรไปมาได้ ทางการจึงต้องใช้รถกวาดหิมะออกจากถนน เกิดเป็นกำแพงหิมะสองข้างทาง ยิ่งหิมะตกลงมามากเท่าใดกำแพงหิมะก็สูงมากขึ้น
คณะเรานำรถยนต์ไปจอดไว้ที่สถานีรถไฟทาเทยามะ แล้วไปที่สถานีรถรางขึ้นเขา เรานั่งเคเบิลคาร์ไปที่สถานีบิโอไดระ จากนั้นก็ต่อด้วยรถบัสที่ไปลานหิมะมูโรโด เราเดินชมสโนวอลล์แล้วพาหลานน้อยไปเล่นหิมะที่ลานสนุกสนานกัน ต้องถือเป็นความโชคดีของคณะเราที่ไปชมกำแพงได้ในอาทิตย์สุดท้ายของหน้าหนาวที่ยังคงมีกำแพงหิมะอยู่
ราเมงอร่อยที่อูโอซู เมื่อกลับลงมาจากภูเขา เราขับรถมุ่งหน้าไปเมื่ออูนาซุกิ ซึ่งจะเป็นที่พักของเราคืนนี้ ระหว่างทางและที่เมืองเล็ก ๆ ชื่ออูโอซู เพื่อทานราเมงเจ้าอร่อยที่เราเซิร์ชพบ เป็นราเมงชามใหญ่ เครื่องเคียงเยอะ อร่อยครับ
คืนที่สามพักเมืองอูนาซูกิ เรามาถึงอูนาซูกิในตอนเย็น เช็คอินที่อูนาซูกิโนอิโฮเทล ซึ่งเป็นโรงแรมออนเซนที่เราจองไปจากไทย โรงแรมตั้งอยู่ริมแม่น้ำประจำเมือง ริมน้ำอีกด้านหนึ่งเป็นเทือกเขาสูงมีทางรถไฟวิ่งเลียบเชิงเขา สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำเป็นโครงเหล็กโค้งสีแดง ทิวทัศน์สวยงามมาก ห้องออนเซนของโรงแรมใหญ่โตกว้างขวางมีสองชั้นแยกชายและหญิง อาหารค่ำเราทานบุฟเฟต์ในห้องอาหารของโรงแรม มีอาหารหลากหลายให้เลือกทานครับ
รถไฟสายโรแมนติกท่องคุโรเบะ หลังอาหารเช้า เราเดินจากโรงแรมไปสถานีรถไฟอูนาซูกิ เพื่อขึ้นรถไฟสายคุโรเบะจอร์จเรลเวย์ท่องเที่ยวไปในเทือกเขาคุโรเบะ ชมทิวทัศน์ก่อนถึงเขื่อนคุโรเบะรวมถึงทิวทัศน์เหนืออ่างเก็บน้ำของเขื่อนด้วย บรรยากาศเป็นธรรมชาติที่สวยสงบ รถไฟสายนี้จึงเป็นที่นิยมว่าเป็น “รถไฟสายโรแมนติก”
เรานั่งรถไฟไปถึงสถานีคียะไดโคระ ซึ่งเป็นจุดชมวิวบนยอดเขาคุโรเบะ ทิวทัศน์สวยงามกว้างไกล รอบสถานีเป็นสวนไม้ดอกงดงาม เราทานกลางวันกันที่สถานีนี้แล้วค่อยกลับลงไป
คืนที่สี่พักโรงแรมออนเซนชื่อดังเมืองทาคายามา เราออกจากอูนาซูกิในตอนบ่าย ขับรถมาประมาณ 2.5 ชั่วโมง เพื่อมาพักโรงแรมออนเซนที่เราเซิร์ชจองมาจากเมืองไทย ชื่อฮอทตะคาโซะยามาโนะโฮเทล เป็นโรงแรมในเทือกเขาที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอยู่ในเขตเมืองทาคายาม่า มีบ่อแช่น้ำแร่ในอาคารที่สะดวกสบาย แต่ไฮไลท์อยู่ที่บ่อแช่นอกอาคารที่สร้างไว้กลางลำธารกลางแจ้งที่อยู่ต่ำกว่าอาคารโรงแรมค่อนข้างมาก จึงต้องอาศัยลิฟต์ขึ้นลงจากโรงแรมไปยังบ่อแช่กลางแจ้ง ขณะที่เราแช่นำอยู่ที่บ่อกลางลำธารนี้ ท้องฟ้าโล่งมองเห็นดวงดาว แต่ก็มีละอองหิมะโปรยปรายลงมาบาง ๆ บรรยากาศแช่น้ำจึงสุขสงบท่ามกลางธรรมชาติ ยอดเยี่ยมครับ เพื่อนๆลองหาโอกาสไปเช่นนี้บ้างนะครับ
สเต็กเนื้อฮิดะเมืองทาคายาม่า ทาคายาม่าเป็นเมืองเก่าอายุกว่า 300 ปี ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี จนได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองเก่าที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยเหตุที่เมืองตั้งอยู่ในหุบเขาเจแปนแอลป์ พื้นที่จึงอุดมสมบูรณ์ ปศุสัตว์ที่ขึ้นชื่อที่นี้คือ วัวฮิดะ ที่มีมันแทรกอยู่ในเนื้อเป็นลายหินอ่อนทำให้เนื้อนิ่มอร่อย ได้รับการยกย่องว่าเป็นเนื้อวัวที่ดีที่สุดเช่นเดียวกับเนื้อมัตสึซากะและเนื้อโกเบ อาหารค่ำแบบญี่ปุ่นที่โรงแรมจัดให้จึงมีเนื้อฮิดะมาให้ทานกับปลาและผักผลไม้ประจำถิ่น อร่อยมากครับ
เช้ารุ่งขึ้น เราเข้าเมืองไปชมตลาดเช้าริมน้ำ ชมย่านเมืองเก่าทาคายาม่า ชมที่ว่าการเมืองครั้งโบราณ วัดโดคุเมจิ แล้วไปชมหอเก็บเกี๊ยวลากหรือยาไตประจำเมือง สวยงามครับ มื้อกลางวันเราไปที่ร้าน Le Midi เป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศลเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารสไตล์ญี่ปุ่นบ้าง ซึ่งอาหารที่เฟเวอริทของร้านนี้ คือ สเต็กเนื้อฮิดะสไตล์ตะวันตกนั่นเอง
คืนที่ห้าพักเมืองเคโระ ช่วงบ่าย เราขับรถมาประมาณ 1.5 ชั่วโมงก็ถึงเมืองเคโระ ของจังหวัดกิฟุอันเป็นเมืองน้ำแร่ที่ดีที่สุดหนึ่งในสามของประเทศร่วมกับเมืองคูซัทสึของจังหวัดกุนมะ และอาริมะออนเซนของจังหวัดเฮียวโกะ
เราเช็คอินเข้าพักที่โรงแรมเคโระออนเซนฟูกาคุ เก็บสัมภาระแล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะที่โรงแรมเตรียมไว้ให้ ออกไปเดินชมเมืองกัน ซึ่งคำว่า “เคโระ” แปลว่า “กบ” ทั้งเมืองจึงมีสัญลักษณ์รูปกบอยู่ทั่วไป เรานั่งแช่ออนเซนเท้าที่บ่อแช่สาธารณะกลางเมือง แล้วเดินไปชมลำธารประจำเมืองที่มีภูเขาเป็นฉากหลัง สวยงามครับ อาหารค่ำเป็นอาหารชุดญี่ปุ่นแบบไคเซกิที่ทางโรงแรมจัดให้มาทานในห้องพัก อิ่มอร่อยสนุกสนานครับ
นาโงย่า เป็นเมืองหลวงของจังหวัดไอชิภูมิภาคชุบุ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 รองลงมาจากโตเกียว โอซากาและเกียวโต แลนด์มาร์คที่สำคัญคือปราสาทนาโงย่า กลางเมืองมีสวนสาธารณะเซ็นทราลพาร์ค หอคอยทีวีทาวเวอร์ ศูนย์การค้าโอเอซิส 21 นาโงย่าเป็นแหล่งกำเนิดของรถยนต์โตโยต้า และเครื่องกระเบื้องนอริตาเกะ การคมนาคมสะดวก มีทั้งรถไฟชิงกันเซน รถไฟท้องถิ่นและรถใต้ดิน มีสนามบินชุบุเชนแทรล์ เป็นสนามบินนานาชาติที่สำคัญของเมืองและภูมิภาค
คืนที่หกกลับเข้ามาพักนาโงย่า ระหว่างทางกลับเข้านาโงย่า เราแวะช้อปปิ้งที่โตกิพรีเมี่ยมเอาท์เลท หลานน้อยได้ตัวต่อเลโก้และของเล่นอื่นมาถุงใหญ่
บ่ายเราเข้ามาเช็คอินเข้าพักที่โรงแรมมายสเตย์นาโงย่าซาเกะที่เข้าร่วมโปรโมชั่น JAL โรงแรมตั้งอยู่กลางเมือง เก็บสัมภาระแล้วเราออกไปเดินชมเมืองที่สวนสาธารณะเซ็นทราลพาร์ค มีน้ำพุสวย มองเห็นหอคอยทีวีทาวเวอร์ อาคารศูนย์การค้าโอเอซีล 21 สวยงามทันสมัย มีเอกลักษณ์
ข้าวหน้าปลาไหลฮิทสุมาบูชิ เป็นข้าวหน้าปลาไหลนาโงย่าสไตล์โดยเฉพาะ โดยจะเสริฟข้าวที่มีปลาไหลย่างปิดหน้ามาเต็มในโถชามไม้ใบโต พร้อมถ้วยเครื่องปรุง 3 ชนิด คือ สาหร่ายหั่นฝอย วาซาบิ และต้นหอมหั่นฝอย และน้ำชา (น้ำซุป) 1 กา กับผักดอง วิธีการรับประทานมี 4 แบบ เริ่มโดยใช้ไม้พายแบ่งออกเป็น 4 ส่วน แบบที่ 1 นำข้าวและปลาส่วนที่ 1 มาทานโดยไม่ต้องปรุงเพื่อให้ได้รสชาติดั้งเดิม แบบที่ 2 นำข้าวและปลาส่วนที่ 2 มาปรุง โดยเครื่องปรุงทั้งหลาย แบบที่ 3 ข้าวและปลาแบบที่ 2 มาเติมน้ำซุปเข้าไปและทานแบบข้าวต้มปลาหน้าปลาไหล ส่วนแบบที่ 4 ให้ทานแบบที่ 1-3 ที่ชอบที่สุด ยุ่งดีไหมครับ แต่ก็อร่อยสุดยอดครับ
นาโงย่าอควาเรี่ยม ตั้งอยู่ริมอ่าวของเมืองนาโงย่า ซึ่งมีเรือสำรวจสมุทร 5001 ทาสีส้มสดใสจอดเทียบท่าอยู่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้ ประเทศญี่ปุ่นได้ส่งเรือนี้ไปสำรวจมหาสมุทรและทวีปแอนตาร์คติกหรือขั้วโลกใต้ บนฝั่งมีรูปปั้นของสุนัขฮอคไกโดที่ไปกับคณะสำรวจ และเสียชีวิตอยู่ที่นั่น
ในอควาเรียมมีสัตว์น้ำหลายชนิดแหวกว่ายอยู่ในตู้ปลาขนาดใหญ่มาก นอกตู้มีโครงกระดูกสัตว์น้ำขนาดใหญ่ เช่น วาฬสีน้ำเงิน วาฬนาวอล วาฬเพชฌฆาต และเต่าโบราณขนาดยักษ์แขวนหรือตั้งแสดงอยู่ในอาคารมีบ่อการแสดงของวาฬนาวอล (วาฬมีเขา) เผือกที่ขาวโพลนไปทั้งตัว นอกอาคารเป็นอัฒจรรย์ สำหรับชมการแสดงของโลมาและวาฬเพชฌฆาต รวมทั้งแมวน้ำด้วย มีจอทีวีขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้ชมได้ชมอย่างชัดเจนขึ้น
จากอควาเรี่ยม เราแวะช้อปและทานกลางวันกันที่อิออนมอลล์
คืนสุดท้ายพักโรงแรมที่สนามบิน จากอิออนมอลล์ เราตรงมายังสนามบินชุบุเซนแทร์เพื่อเช็คอินเข้าพักในโรงแรมคอมฟอร์ทโฮเทลอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์พอร์ท ซึ่งจัดโปรโมชั่นห้องพักร่วมกับ JAL
หลังจากส่งคณะพร้อมสัมภาระลงไว้ที่โรงแรมก่อน คุณพ่อผู้จัดทริปก็นำรถเช่าไปคืนบริษัทซึ่งอยู่ในบริเวณสนามบิน โดยไม่ลืมเติมน้ำมันให้เต็มก่อนคืนรถ การขับรถเที่ยวทริปนี้จึงสะดวกสบายมากครับ
ศูนย์อาหารสนามบิน จากโรงแรมเราเดินมาบนทางเดินเข้าอาคารสนามบินประมาณ 200 - 300 เมตร ก็จะถึงห้องโถงของผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 ซึ่งตกแต่งห้องนี้โดยใช้หุ่นนินจาห้อยลงมาจากเพดาน คณะเราเลยขึ้นไปบน ชั้น 4 ที่เป็นศูนย์อาหารของสนามบินที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของนาโงย่าเองและของญี่ปุ่น คณะเราเลือกร้านสเต็กหมูทอดมิโสะคัทสึที่มีรูปหมูพุงพลุ้ยเป็นโลโก้มีสเต็กให้เลือกหลายแบบรวมทั้งสเต็กหมูคุโรบูตะ อร่อยดีครับ
ชมวิวสนามบินบนดาดฟ้า หลังอาหาร เราขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าเพื่อชมวิวสนามบิน ในเวลาพลบค่ำจะเห็นแสงไฟระยิบระยับไปทั่วเครื่องบินจอดเรียงรายไปตามสะพานเทียบเครื่อง ดูเป็นระเบียบสวยงาม ชมเครื่องบินขึ้นลงในรันเวย์ตื่นตาตื่นใจดีครับ
กลับบ้านแล้วมาใหม่ เช้ารุ่งขึ้นเราไม่ต้องรีบออกจากโรงแรมมากนัก เพราะไฟล้ท์ JAL 739 ที่เราจะขึ้นกลับกรุงเทพจะออกในเวลา 10.10 น. เราจึงมีเวลาหาซื้อของฝากของที่ระลึกจากร้านค้าในอาคารสนามบินได้สบาย ๆ
ทริปนี้เราใช้เวลาท่องเที่ยวในภูมิภาคชุบุเป็นเวลา 8 วัน 7 คืนโดยพักในโรงแรมออนเซนชั้นเยี่ยมถึง 5 คืน เรียกได้ว่าออนเซนกันอย่างจุใจ อาหารก็อร่อยแทบทุกมื้อ คณะเราจึงลงมติกันว่าจะต้องมีทริปขับรถเที่ยวญี่ปุ่นอีก
โอกาสแห่งการท่องเที่ยวเปิดอีกเมื่อใด เราไปเที่ยวกันอีกนะครับ