ฝุ่นในกรุงเทพเมื่อ 13 ปีก่อน

วันนี้ admin เอาผลงานวิจัยเกี่ยวกับการเก็บตัวอย่างฝุ่นในกรุงเทพ เมื่อ 13 ปีก่อนมาเล่าให้ฟังค่ะ (ผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการในปี 2006) งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยของรุ่นน้อง admin เอง ที่ภาควิชาวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำร่วมกับ Professor จาก University of Viennaหลายคนอาจมีคำถามว่าฝุ่นมาเยอะปีนี้หรือเปล่า มันมาจากไหน เมื่อก่อนฝุ่นในกรุงเทพเยอะแค่ไหน

งานวิจัยนี้ทำการเก็บตัวอย่างฝุ่นในกรุงเทพ โดยแยกขนาดอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก เป็น PM10, PM2.5 และ PM1 และเปรียบเทียบกันระหว่างฤดูฝนและฤดูแล้ง

PM10 หมายถึงอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่าหรือเท่ากับ 10 ไมโครเมตร (ซึ่งรวม PM2.5 และเล็กกว่าอยู่ในนั้นด้วย)
PM2.5 หมายถึงอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่าหรือเท่ากับ 2.5 ไมโครเมตร (ซึ่งรวมถึง PM1 และเล็กกว่าอยู่ในนั้นด้วย)
PM1 หมายถึงอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่าหรือเท่ากับ 1 ไมโครเมตร

จากผลการทดลองเป็นกราฟแท่งดูง่ายๆ แต่มีจุดน่าสังเกตอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว

- ค่า PM10 ที่เห็นมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งเป็นฝุ่นขนาดเล็ก โดยมีปริมาณมากกว่าครึ่งของ PM10 เป็น PM2.5 และเมื่อเราพิจารณาไปที่ขนาดที่เล็กกว่า ก็พบว่าเกินครึ่งของ PM2.5 เป็นฝุ่น PM1 ที่มีขนาดเล็กมากกว่าไปอีก แปลว่าฝุ่นที่อยู่กับเราเกินครึ่งเป็นฝุ่นที่ขนาดเล็ก (ซึ่งยิ่งเล็กยิ่งอันตราย)

- ค่าฝุ่นเมื่อเทียบกันในฤดูฝนจะเห็นว่ามีค่าน้อยกว่าฤดูแล้ง อันนี้ดูปรกติ แต่ที่น่าสนใจมากๆ คือ สังเกตดูว่าความต่างของปริมาณฝุ่นทั้ง 2 ฤดู จะต่างกันมากเมื่อฝุ่นนั้นขนาดใหญ่อย่าง PM10 แต่หากเราดูที่ฝุ่นขนาดเล็กมากๆ อย่าง PM1 ความต่างของปริมาณฝุ่น แทบจะไม่แตกต่างกันเลย นั่นแปลว่า ฝนก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักสำหรับฝุ่นที่มีขนาดเล็กมากๆ อย่าง PM1 หรือแม้แต่ PM2.5

- สุดท้ายเรื่องที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง ถ้าเราดูความเข้มข้นของฝุ่นในหน่วย ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะพบว่า แม้แต่เมื่อ 13 ปีที่แล้ว กรุงเทพ มีความเข้มข้นฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM2.5 มากกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรอยู่แล้ว (การทดลองนี้เก็บตัวอย่างฝุ่นในย่านที่มีการจราจรริมถนน)

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ลองไปติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ตามอ้างอิงด้านล่างนะคะ

สุดท้ายงานวิจัยนี้พยายามบอกทุกคนมาตั้งแต่ปี 2006 แล้วว่า ฝุ่น PM2.5 มันมีอยู่จริงใกล้ตัวเราและเกินมาตรฐานมานานแล้ว ถึงแม้ว่าในตอนนั้น PM10 ยังไม่เกินค่ามาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรก็ตาม เราน่าจะหันมาสนใจฝุ่นเล็กๆ เหล่านี้กันเถอะ

แม้ว่าฝุ่นขนาดเล็กจะมีมานานแล้ว แต่แนวโน้มฝุ่นขนาดเล็กเพิ่มขึ้นทุกปี จนวันนี้เราเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน และทำให้ทุกคนได้รู้จัก PM2.5 หลังจากผ่านมา 13 ปี เราทุกคนจึงควรตระหนักและไม่เพิกเฉยกับปัญหานี้ อย่าลืมป้องกันตัวเองด้วยนะคะ ขอให้ทุกคนสุขภาพดีค่ะ


อ้างอิง: T.Prasserttachato, A.Podgorski, J.H. Luckner, M.Furuuchi, L.Gradon, S.Suvachittanont and W.W.Szymanski, “Sampling and Characterization of PM-fractions of Ambient Particulate Matter in Bangkok Utilizing a Cascade Virtual Impactor”, Aerosol and Air Quality Research, Vol.6, No.1, pp.67-81, 2006